สำรวจอาณาจักรค้าปลีกยักษ์ใหญ่ในไทยกับ กลุ่มเซ็นทรัล ก่อตั้งมาเป็นระยะเวลาร่วม 75 ปีแล้ว จากจุดกำเนิดร้านหนังสือ ไปสู่การทำธุรกิจห้างสรรพสินค้าก่อนสยายปีกอาณาจักรให้เติบโตทั้งในไทยและขยายไปสู่ต่างประเทศ สืบทอดธุรกิจขยายตัวแข็งแกร่งยาวนาน จนถึงรุ่นที่ 3 ภายใต้ การบริหารของ “ทศ จิราธิวัฒน์”
กลุ่มเซ็นทรัลมี 3 เรือธงหลัก ได้แก่ ธุรกิจค้าปลีกและบริการ กับ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ธุรกิจศูนย์การค้า และอสังหาริมทรัพย์ กับ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และ ธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร กับ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
ภาพรวมรายได้ทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจหลักในปี 2565 รวมที่ 3.04 แสนล้านบาท มาจาก บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ซีอาร์ซี รีเทล จำนวน 2.36 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากปีก่อน บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) มีรายได้ 3.71 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) มีรายได้รวม 3.01 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น กลุ่มธุรกิจโรงแรม รายได้ 1.82 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 57% และ กลุ่มธุรกิจร้านอาหาร รายได้ 1.28 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 37%
สำรวจแผนการขยายธุรกิจทั้งกลุ่ม 3 ธุรกิจหลัก วางงบลงทุนระยะยาวช่วง 3-5 ปีรวมประมาณ 2.97 แสนล้านบาท มาจาก บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น วางงบประมาณ ลงทุน 1.50 แสนล้านบาท ในระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2566-2570 บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา วางงบลงทุน 5 ปี นับจากปี 2566 – 2570 อยู่ที่ 1.35 แสนล้านบาท บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพัฒนา วางงบลงทุน 3 ปี ระหว่าง 2566-2568 ไว้ที่ 1.18 – 1.99 หมื่นล้านบาท
ในปี 2566 มีโปรเจกต์ไฮไลต์สำคัญ โดย บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น วางงบลงทุนในปี 2566 ไว้ที่ 2.80 หมื่นล้านบาท อยู่ในแผนลงทุน 1.50 แสนล้านบาท ในระยะเวลา 5 ปี ทั้งเปิดตัวศูนย์การค้า โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เจ้าฟ้า (ภูเก็ต) รวมถึงมีแผนเปิดตัวแบรนด์ใหม่ LA Bruket ภายใต้ CMG พร้อมมุ่งยกระดับ Central app ครั้งสำคัญ ส่วนโครงการในเวียดนาม จะมีการขยายร้านค้าในเวียดนาม เป็น 600 สาขา ครอบคลุม 57 จังหวัดในระยะเวลา 5 ปี ส่วนในประเทศอิตาลี มีแผนรีโนเวทห้างรีนาเซนเต เช่นกัน
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จะเคลื่อนทัพธุรกิจศูนย์การค้าและอสังหาริมทรัพย์ครั้งใหญ่ โดยประกาศแผนลงทุนระยะ 5 ปีนับจากนี้ ระหว่างปี 2566 – 2570 รวมวงเงิน 1.35 แสนล้านบาท จะขยายโครงการรวมกว่า 200 โครงการ จะอยู่ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน จะมีทั้ง ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ที่อยู่อาศัย โรงแรม และอาคารสำนักงาน
โครงการรีเทลในไทย จะมีทั้ง เซ็นทรัล เวสต์วิลล์ เตรียมเปิดดำเนินการไตรมาส 4 ของปี 2566 ส่วนเซ็นทรัลนครสวรรค์ เปิดไตรมาส 1 ปี 2567 เซ็นทรัลนครปฐม เปิดไตรมาส 2 ปี 2567 และ เซ็นทรัล กระบี่ จะเปิดในไตรมาส 4 ปี 2567 ส่วนคอมมูนิตี้มอลล์ มาร์เช่ ทองหล่อ (Marché Thonglor) ได้เปิดดำเนินการตั้งแต่เดือน มี.ค.2566 ที่ผ่านมา
อีกธุรกิจที่บริษัทให้ความสำคัญกับโครงการที่อยู่อาศัยจะเปิด 7 โครงการใหม่ในปี 2566 รวมมูลค่ากว่า 9,000 ล้านบาท ตลอดจนธุรกิจโรงแรมกับ 3 แบรนด์ได้แก่ Centara, Centara One และ GO! Hotel จะเปิดรวม 10 แห่ง ส่วนสำนักงาน มีแผนเปิด เซ็นทรัล พาร์ค ออฟฟิสเซส ในปี 2567 อยู่ในโครงการ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค
ทางด้าน กลุ่มบริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพัฒนา วางแผนจะขยายโรงแรมทั้งในไทยและตลาดต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายสู่การเป็น 1 ใน 100 ของแบรนด์ชั้นนำในโลก ซึ่งแผนการลงทุนในปี 2566-2568 เตรียมงบไว้ 1.18 – 1.99 หมื่นล้านบาท โดยแผนการขยายสาขาใหม่จำนวนไม่น้อยกว่า 150 สาขา มีแผนเพิ่มแบรนด์ใหม่ 1-2 แบรนด์ ซึ่งในประเทศไทย จะเปิดโรงแรมใหม่ใน จ.อุบลราชธานี ระยอง สุราษฎร์ธานี อยุธยา และเกาะสมุย ส่วนต่างประเทศ จะเปิดโรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า (ญี่ปุ่น) ตลอดจน เข้าไปขยายตลาดใหม่ใน เวียดนาม
ภาพรวมอาณาจักรเซ็นทรัลในทั่วโลกมีจำนวน 3,700 สาขา พื้นที่รวมกว่า 7 ล้าน ตร.ม. ใน 18 ประเทศ 142 เมือง โดยมีฐานลูกค้าเข้ามาช้อป 130 คนต่อปี ส่วนธุรกิจหลักอย่างธุรกิจห้างสรรพสินค้า มีใน 11 ประเทศ รวม 80 เมือง จำนวน 120 สาขาส่วนจำนวนฐานลูกค้าในบัตร The 1 ด้วยจำนวนสมาชิกกว่า 20 ล้านราย
อีกกลยุทธ์ของกลุ่มเซ็นทรัล ได้วางเป้าหมายขับเคลื่อนทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจให้ไปสู่เป้าหมาย NET Zero ภายในปี 2050 ที่มุ่งสร้างความยั่งยืนในระยะยาว
จึงต้องติดตามการเคลื่อนทัพธุรกิจในปี 2566 จะสร้างผลประกอบการของทั้งกลุ่มเซ็นทรัล เติบโตร้อนแรงระดับใด !