“เซ็นจูรี่ 21″จับมือ Metaverse Thailand ดึงผู้ถือ Crypto ทั่วโลก ลงทุนสร้างธุรกิจครบวงจรบนโลกเสมือนจริง

 

“เซ็นจูรี่ 21” จับมือ Metaverse Thailand ดึงผู้ถือ Crypto ทั่วโลก ลงทุนสร้าง Community ธุรกิจครบวงจรบนโลกเสมือนจริง

 

นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานและผู้ก่อตั้ง บริษัท เซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ได้เข้าไปร่วมลงทุนกับ Metaverse Thailand and Global เพื่อรุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรรายแรกของประเทศไทยบนโลกเสมือนจริง (Metaverse) ซึ่งจะเป็นการเปิดโลกใหม่สำหรับการลงทุนซื้อขายที่ดินและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในรูปแบบต่างๆ บนแพลตฟอร์มดิจิทัล โดยใช้ประสบการณ์ด้านการลงทุนซื้อขายที่ดินและอสังหาริมทรัพย์มากกว่า 30 ปี มาใช้บน Metaverse กลุ่มเป้าหมายคือผู้ถือ Crypto Wallet ทั่วโลก กลุ่มลูกค้าทั่วไปที่เข้าไปใช้บริการธุรกิจ และที่ปัจจุบันมีมากกว่า 68 ล้านรายทั่วโลก (ข้อมูล ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2564)

“โอกาสการลงทุนใน Metaverse ในขณะนี้จะเหมือนกับยุคแรก ๆ ที่อินเทอร์เน็ตเริ่มบูม ซึ่งยังมีโอกาสอีกมากมายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดย Metaverse เหมือนเป็นการสร้างความเป็นเจ้าของโลกใหม่ด้วยระบบ blockchain การทำธุรกิจใน Metaverse จึงมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้น โดยเฉพาะด้านอสังหาริมทรัพย์ ประเภทที่ดิน ที่มีการจับจองและซื้อขายอย่างรวดเร็วจากผู้ถือ Crypto Wallet ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ” นายกิติศักดิ์กล่าว

สำหรับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใน Metaverse แห่งแรกของเรา คือนครดูไบ จะเป็น “Metaverse Dubai World First Virtual Megacity” ซึ่ง Metaverse Thailand and Global ได้พัฒนาขึ้นและเตรียมจะเปิดจองในเร็วๆ นี้ จำนวน 2.2 แสนบล็อก บล็อกละ 67 ตางราวา ขายในราคาบล็อกละ 100 เหรียญ Binance USD (BUSD) (1 BUSD มีราคาเท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน) โดยเซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) จะเป็น 1 ใน 50 รายแรกที่ได้สิทธิ์การจองที่ดินดิจิทัลใน Metaverse Dubai ในวันแรกที่เปิดจอง ซึ่งทาง Metaverse Thailand and Global คาดว่าราคาจะปรับสูงขึ้นได้ถึง 10-30 เท่า หรือมีมูลค่าในอนาคตประมาณกว่า 6,000-20,000 ล้านบาท

“เราจะเป็นผู้นำและผู้เริ่มต้นพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรบน Metaverse ที่แรกในโลก รวมถึงการสร้างระบบการประเมินที่ดิน ที่โปร่งใสผ่าน blockchain เพื่อสร้างโลกเสมือนจริงให้เกิดเป็นชุมชนธุรกิจ และยังสามารถพัฒนาโครงการและสถานที่ต่างๆ ที่สามารถใช้งานได้จริง อย่าง Virtual Office, Virtual Residential Project, Virtual Mall, Virtual Exhibition Hall และ Virtual Concert Arena เป็นต้น เพราะนอกจากจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างแบรนด์ในฐานลูกค้าใหม่ๆ แล้ว ยังเป็นการก้าวไปสู่โลกอนาคตอย่างแท้จริง อีกทั้งยังสามารถสร้าง Non-Fungible Token (NFT) เพื่อจำหน่ายและพัฒนาสู่การออกเหรียญและสร้างระบบการเงินของตัวเอง เพื่อใช้บนโลกเสมือนจริง เช่น งาน Virtual Home Expo ที่สามารถรวบรวมโครงการที่อยู่อาศัยทั้งในและต่างประเทศ เข้ามาในงานเพื่อรองรับผู้ชมได้จากทั่วโลก เป็นต้น”

นายกิติศักดิ์ กล่าวอีกว่า การเลือกลงทุนใน Metaverse Dubai เพราะเป็นกลุ่มที่ตอบรับ New Normal Economy ได้เร็ว ประกอบกับ ดูไบเป็นเมืองที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนจากการพัฒนาพื้นที่ที่เป็นทะเลทรายให้มาเป็นเมืองที่มูลค่าอสังหาริมทรัพย์ติดท็อปของโลก และยังมีโครงการที่มีชื่อเสียงมากมาย อย่างเช่น The Palm Islands หรือ Bird khalifa Dubai World เป็นต้น นอกจากนี้ ยังเป็นศูนย์รวมธุรกิจการค้าที่ยิ่งใหญ่ และเป็นศูนย์กลางในการจัดอีเวนต์ระดับโลกทั้งด้านกีฬาและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งสอดคล้องกับธุรกิจของบริษัทที่จะสามารถนำไปต่อยอดใน Metaverse ได้
สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ ทางบริษัท เซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) จำกัด ได้ร่วมมือกับ Morison Global โดยนายพอล วาน (Paul Wan) President of Morison Global ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Metaverse Thailand ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการพัฒนา Metaverse ทองหล่อ และเป็นองค์กรที่รวบรวมเครือข่ายบริษัทชั้นนำจากนานาประเทศที่ให้บริการบัญชี การตรวจสอบบัญชี การจัดการด้านภาษี ไอที การเงิน และงานกฎหมายเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งนายพอล วาน เป็นผู้อยู่เบื้องหลังดีลทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากมายและมีคอนเน็กชั่นที่กว้างขวางกับหลากหลายบริษัท และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลก กว่า 50 ประเทศ 80 เมืองสำคัญ จะเข้ามาวางระบบพื้นฐานต่างๆ ให้ พร้อมกับดึง Community ของผู้ใช้เหรียญ MVP และกลุ่ม Crypto จากทั่วโลกเข้ามา Metaverse Dubai ที่พัฒนาขึ้นในครั้งนี้อีกด้วย